วันพุธที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2554

ระบบเลือดและภูมิคุ้มกัน

Chlorophyll Plus

สารประกอบคลอโรฟิลล์ได้ รับการค้นพบสูตรโครงสร้างทางเคมี ครั้งแรกเมื่อประมาณต้นศตวรรษที่ 20 โดยนักวิทยาศาสตร์ชื่อ ศาสตราจารย์ ฮาน์ส ฟิชเชอร์ (Hanns Fisher,M.D.)และเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่ได้รับรางวัลโนเบล (Noble’s Prize) เนื่องจากสามารถใช้ความเร้นลับของคลอโรฟิลล์ได้สำเร็จ และจากการค้นพบดังกล่าวทำให้เราทราบว่า สูตรโครงสร้างของคลอโรฟิลล์ มีลักษณะคล้ายคลึงกับสูตรโครงสร้างของสารประกอบ ฮืม(Heme) ที่เป็นโครงสร้างหลักของเม็ดเลือดแดง(Red Blood Cell) ของคนเราอย่างมาก และจากการวิจัยทางการแพทย์ หลายการวิจัยก็ยืนยันได้ว่า ร่างกายของคนเราก็สามารถนำเอาสารคลอโรฟิลล์นี้ ไปเป็นสารตั้งต้น (Precursor) ในการสร้างเม็ดเม็ดเลือดแดงได้เมื่อร่างกายต้องการโดยเฉพาะในภาวะที่ร่างกาย ของเราเกิดความบกพร่องในการสร้างเม็ดเลือดแดงเนื่องจากขาดสารอาหาร อย่างเช่น ในภาวะโลหิตจาง ( Anemia) ฯลฯ
เป็นที่ทราบกันดีว่าคลอโรฟิลล์เป็น รงควัตถุที่พบในพืชที่ มีสีเขียว และใช้ในการสังเคราะห์ ด้วยแสงของพืช โครงสร้างของคลอโรฟิลล์นั้นคล้ายคลึงกับ ฮีม(Heme) ในฮีโมโกลบิน ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญในเม็ดเลือดแดง จึงมีผู้เรียกคลอโรฟิลล์ว่าเป็น “the blood of plants” จึงมีการศึกษาถึงฤทธิ์ของคลอโรฟิลล์ดังนี้
1. ต่อต้านการกลายพันธุ์ของเซลล์ และลดอัตราการเกิดมะเร็ง
2. ฤทธิ์ในการต้านการติดเชื้อ
3. กำจัดกลิ่นที่เกิดจากอวัยวะภายในร่างกาย
4. ช่วยในการรักษาบาดแผล
5. รักษาอาการท้องผูก
6. ช่วยลดพิษหรืออาการข้างเคียงจากยาบางชนิดได้
7. รักษาภาวะนิ่วชนิด calcium oxalate stone
8. กระตุ้นการสร้างเลือดในผู้ป่วยโลหิตจางได้
9. ช่วยเพิ่มปริมาณเลือดให้กับร่างกาย
10. ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการนำพาออกชิเจนเข้าสู่เซลล์
11. ช่วยขจัดสารพิษในเลือด ตับ และไต
12. ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด
13. ปรับสมดุลให้กับร่างกาย
14. ให้ความสดชื่น
15. ผิวพรรณสดใส
16. ช่วยให้ระบบขับถ่ายดีขึ้น
17. มีความสามารถในการฆ่าเชื้อแบคทีเรีย
18. เสริมภูมิต้านทานให้กับร่างกาย ฯลฯ

คุณประโยชน์ของคลอโรฟิลล์:

- ช่วยขับสารพิษและขจัดของเสียสะสมในร่างกาย ทำให้สุขภาพดีขึ้น
- ช่วยฟื้นฟูการทำงานของตับและสร้างเม็ดเลือดแดง
- ช่วยบรรเทาอาการภูมิแพ้บางชนิด
- ลดการติดเชื้อของแผลในช่องปากและระบบทางเดินอาหารและระงับกลิ่นปาก
- เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน

.............................................................................................


มิสติก้า (Mistica)


Miracle from the Amazon
mestica มิสติก้า Mistica

ในสมัยก่อน ชนพื้นเมืองชาวอะเมซอน ได้รับการเลื่องลือในเรื่องการดื่มน้ำผลไม้ เพื่อเพิ่มความแข็งแรงให้กับร่างกายก่อนออกไปรบ และ ช่วยเพิ่มสมรรถภาพทางเพศ ซึ่งพวกเขาเชื่อว่า มีผลไม้ชนิดหนึ่งชื่อว่า Acai ที่ถูกขนานนามให้เป็น “Tree of the life” เป็นผลไม้มหัศจรรย์ ที่อุดมไปด้วยสารต่อต้านอนุมูลอิสระตามธรรมชาติ มีกรดอะมิโน สารแอนโทไซยานิน และ กรดไขมันจำเป็นครบถ้วน

ในปัจจุบัน เรามักจะได้ยินเรื่องผลร้ายของอนุมูลอิสระ ที่สามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลาทั้งจากการรับประทานอาหาร หรือแม้แต่การหายใจ ด้วยเหตุนี้ซินเนอร์จี้จึงพยายามคิดค้นผลิตภัณฑ์ที่แก้ปัญหาเหล่านี้จนเป็น ที่มาของผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุด Mistica

Mistica เป็นผลิตภัณฑ์ที่นำเอาความมหัศจรรย์ในผลไม้พิเศษ Acai มาผสมผสานให้เกิดความลงตัว เพราะเราทราบดีว่า Acia มีสารต้านอนุมูลอิสระ ประกอบไปด้วยกรดอะมิโน กรดไขมันจำเป็นต่อร่างกาย และ Plant Sterol ซึ่งสารทั้งหมดนี้มีส่วนช่วยรักษาระดับคลอเรสเตอรอลให้เป็นปกติ ช่วยระบบไหลเวียนหลอดเลือดและหัวใจ เพิ่มภูมิคุ้มกันและเสริมสร้างความแข็งแรงให้ร่างกาย
Mistica เป็นผลิตภัณฑ์ที่ให้คุณค่าสารอาหารที่ครบถ้วน ทั้งยังให้รสชาติอร่อย สามารถรับประทานได้เป็นประจำทุกวัน จะช่วยเสริมสร้างพลังงานให้กับร่างกาย เป็นเครื่องดื่มที่เหมาะสำหรับคนที่รักสุขภาพเป็นอย่างยิ่ง

คุณประโยชน์ของ Mistica

1. เป็นสารแอนตี้ออกซิแดนท์ ช่วยให้การทำงานของเซลล์เป็นปกติ ป้องกันเซลล์จากการถูกทำลายของอนุมูลอิสระ ลดความเสี่ยงการเกิดมะเร็ง
2. สารแอนโทไซยานิน ช่วยให้ระบบหลอดเลือดและหัวใจทำงานเป็นปกติ
3. Phytosterols สร้างสมดุลให้กับร่างกาย ช่วยรักษาระดับคลอเรสเตอรอลให้เป็นปกติ
4. Amino Acids ช่วยเสริมสร้างการสร้างโปรตีน ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ
5. เสริมสร้างระบบภูมิต้านทานให้กับร่างกาย ส่งเสริมระบบประสาทให้กับร่างกาย
6. ส่งเสริมการมองเห็นด้วย ปกป้องดวงตาให้แข้งแรง ยับยั้งการเกิดต้อกระจก

มิสติก้า (Mistica)

เป็น ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยให้ร่างกายทำงานได้อย่างเป็นปกติ การรับประทาน มิสติก้า (Mistica) เป็นประจำทุกวัน จะช่วยในการเสริมสร้างพลังงานให้กับร่างกายและในขณะเดียวกันก็ช่วยต่อต้าน อนุมูลอิสระให้กับร่างกาย

.............................................................................................


บอดี้การ์ด (Bodi Guard)

น้ำมันตับปลาฉลาม 100%
Shark Liver Oil

น้ำมันจากปลาฉลามน้ำลึก ผลิตภัณฑ์ที่ให้กรดไขมันไม่อิ่มตัวกลุ่ม โอเมก้า-3 ได้แก่ อีพีเอ (EPA) และ ดีเอชเอ (DHA) ซึ่งร่างกายไม่สามารถสร้างเองได้ และจำเป็นต้องได้รับจากสารอาหาร มีส่วนผสมของวิตามินอี อัลคิลกลีเซอรอล (Alkylglycerols) สารสควอลีน สควอลามีน เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ไม่เจือสี ไม่ใช้วัตถุปรุงแต่งรส

ปลาฉลาม (SHARK)

นักล่าผู้ช่วยชีวิต
ในโลกนี้มีสัตว์ที่หน้าหวาดกลัวอยู่หลายชนิด หนึ่งในนั้นคือ ปลาฉลาม เพราะมีรูปร่างสีเทาเปรียบประดุจเหล็กกล้า แววตาเยือกเย็น ไร้ความรู้สึก แถมยังมีฟันที่แหลมคม สามารถทำอันตรายถึงชีวิตได้
แต่ใครจะรู้ว่า ในความหน้ากลัวของปลาฉลามนั้นกลับได้รับยกย่องว่าเป็น “ผู้ช่วยชีวิต” เนื่องจากในตับของปลาฉลาม มีสารอัลคิลกลีเซอรอล (Alkylglycerols) ซึ่งเป็นสารมหัศจรรย์ ที่กุมความลับของการมีสุขภาพดี และที่สำคัญคือ มสารตัวนี้มันทำให้เรามีอายุที่ยืนนาน

สารอัลคิลกลีเซอรอล (ALKYLGLYCEROLS หรือ AKGS) คืออะไร?

อัลคิลกลีเซอรอล (Alkylglycerols หรือ AKGs) เป็นกลุ่มของสารที่เกิดขึ้นได้จากธรรมชาติ มีส่วนช่วยในการกระตุ้นการสร้างเม็ดเลือดขาวในไขกระดูก อัลคิลกลีเซอรอล (Alkylglycerols) พบได้ในปลาน้ำจืด วัว แกะ หรือน้ำนมแม่ ทำให้ทารกที่ถูกเลี้ยงด้วยน้ำนมแม่นั้น มีภูมิต้านทานต่อการติดเชื้อ ซึ่งในน้ำนมของมนุษย์นั้นมี AKGs มากกว่าในน้ำนมวัวถึง 10 เท่า แต่จะพบสารนี้ได้มากที่สุดในตับของปลาฉลามน้ำลึก

สควอลามีน (SQUALAMINE)

ในตับปลาฉลามมีสารสควอลามีน (Squalamine) ในปริมาณสูงที่สุด และยังพบในส่วนของกระเพาะและเนื้อเยื่ออื่นๆของปลาฉลามอีกด้วย สควอลามีน (Squalamine) จะมีผลคล้ายคลึงกับยาปฎิชีวนะ ลดการสร้างเส้นเลือดใหม่ที่ทำหน้าที่หล่อเลี้ยงสารอาหาร ควบคุมการเจริญเติบโตของเนื้องอกที่สมอง สามารถยับยั้งและลดขนาดของก้อนมะเร็งได้

สควอลีน (SQUALENE)

เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ คุณภาพสูง และเสริมสร้างภูมิต้านทานได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังช่วยในการฟื้นฟูเซลล์ผิวหนังให้มีความแข็งแรงขึ้นอีกด้วย

คุณสมบัติของ บอดี้การ์ด (BODI GUARD)

บอดี้การ์ด (Bodi Guard) น้ำมันตับปลาฉลาม 100%
  1. เสริมสร้างเซลล์เม็ดเลือดขาว เพื่อกระตุ้นและสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย
  2. ลดขนาดของก้อนมะเร็งในร่างกาย
  3. ปกป้องการได้รับอันตรายจากกัมมันตรังสีในระหว่างรักษาด้วย รังสีบำบัด
  4. ลดความเสี่ยงในการเกิดระดับเม็ดเลือดขาวต่ำในระหว่าง การรักษาด้วยรังสีบำบัด
  5. ช่วยในการทำลายและขจัดอนุมูลอิสระ ซึ่งช่วยปกป้องเยื่อหุ้มเซลล์จากเชื้อโรค
  6. ช่วยลดอาการ ภูมิแพ้ และ หอบหืด
  7. ช่วยในการซ่อมแซมแผลของผิวหนังที่ถูกทำลายจากแสงแดด ลดอาการเหี่ยวย่น ทำให้ผิวนุ่มนวล
  8. ช่วยลดคลอเรสเตอรอลชนิด LDL และเพิ่มคลอเรสเตอรอลชนิด HDL ทำให้สามารถควบคุมคลอเรสเตอรอลในร่างกายให้อยู่ในระดับปกติ
.............................................................................................